The Good Place ภพสุขนิรันดร์หรือไม่? คลายเครียดไปกับจักรวาลสุดล้ำและบทบาทสมมติที่เกินคาด!
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่จะทำให้คุณหัวเราะไปพร้อมๆ กับการตั้งคำถามเชิงปรัชญาเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความหมายของการเป็นมนุษย์ “The Good Place” (ภพสุขนิรันดร์) จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม! ซีรีส์แนวคอเมดีแฟนตาซีเรื่องนี้สร้างสรรค์โดย Michael Schur ผู้กำกับฝีมือดีที่เคยสร้างผลงานมาแล้วอย่าง “Parks and Recreation” และ “Brooklyn Nine-Nine”
“The Good Place” พาเราไปยังภพภูมิหลังความตายที่แสนวิเศษ โดยมีทิวทัศน์อันรื่นรมย์และประชาชนที่เป็นมิตร
ตัวละครหลักของเรื่องคือ Eleanor Shellstrop (Kristen Bell) ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ชั่วๆ ธรรมดา แต่ด้วยความผิดพลาดของระบบเธอถูกส่งไปยัง “The Good Place”
แต่เมื่อ Eleanor เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรอยู่ในภพสุขนิรันดร์นี้ เธอจึงตัดสินใจร่วมมือกับ Chidi Anagonye (William Jackson Harper) นักปรัชญาที่ยำเกรง, Tahani Al-Jamil (Jameela Jamil) สตรีผู้สูงศักดิ์จากครอบครัวที่ร่ำรวย และ Jason Mendoza (Manny Jacinto) คนโง่และหลงตัวเอง เพื่อปกปิดความจริง
ในขณะเดียวกัน Michael (Ted Danson) ผู้ดูแล “The Good Place” ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ Eleanor พึงพอใจกับชีวิตหลังความตาย แต่เมื่อความจริงเริ่มถูกเปิดเผย
Michael และ Eleanor ต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบและสร้างความสมดุลให้กับจักรวาล
บทบาทที่น่าจดจำ
Kristen Bell ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการรับบท Eleanor Shellstrop ผู้ที่เต็มไปด้วยความหุนหันพลุกพลานแต่ก็มีความซื่อสัตย์ในใจ
William Jackson Harper และ Jameela Jamil ก็แสดงได้อย่างดีเยี่ยม ขณะที่ Manny Jacinto มอบบทบาท Jason Mendoza ที่แสนบื้อและน่าสงสาร
Ted Danson เป็น Michael ผู้ดูแล “The Good Place” ได้อย่างยอดเยี่ยม เขานำเสนอภาพของผู้ที่แคร์ต่อผู้อื่น แม้ว่าเขาจะต้องทำหน้าที่ปกปิดความจริงอยู่ก็ตาม
ความคิดสร้างสรรค์และการสำรวจปรัชญา
นอกเหนือจากความตลกขบขัน “The Good Place” ยังสำรวจเรื่องราวเชิงปรัชญาที่น่าสนใจ เกี่ยวกับธรรมะ, อุดมการณ์ และความหมายของชีวิต ซีรีส์นี้ตั้งคำถามว่าหลังความตายเป็นอย่างไร
และเราจะถูกตัดสินโดยใคร
นอกจากนั้นยังมีการวิเคราะห์
- 윤리적 문제
- 자유의지
- 개인의 성장
การกำกับภาพและดนตรีประกอบ
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสวยงามและน่าประทับใจด้วยฉากหลังที่แสนวิเศษ และเอฟเฟ็กต์พิเศษที่ยอดเยี่ยม
ดนตรีประกอบของ Michael Skloff
ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับซีรีส์ได้อย่างลงตัว
ตารางเปรียบเทียบ “The Good Place” กับซีรีส์แนวเดียวกัน:
ซีรีส์ | สไตล์ | ความตลกขบขัน |
---|---|---|
The Good Place | คอมเมดีแฟนตาซี | ★★★★☆ |
The Afterparty | คอมเมดีลึกลับ | ★★★☆☆ |
Russian Doll | ดราม่า, SF | ★★☆☆☆ |
สรุป:
“The Good Place” เป็นซีรีส์ที่ทั้งสนุกและคิดมากได้ในเวลาเดียวกัน
ด้วยนักแสดงที่ยอดเยี่ยม
บทบาทที่น่าจดจำ
และเรื่องราวที่ชวนให้เราตั้งคำถาม
ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความบันเทิงที่แปลกใหม่
และทำให้คุณคิดทบทวนชีวิตของตนเอง